ซึมซับการดื่ม วิสกี้ ที่ไม่ใช่แค่ไหลแอลกอฮอล์เข้าสู่ร่างกาย
ในวิถีการดำรงชีพของมนุษย์เรามีเรื่องของอาหารการกินมาเกี่ยวพันตั้งแต่ยุคเก่าจนถึงยุคใหม่ อาหารหรือเครื่องดื่มที่กำเนิดขึ้นตั้งแต่อดีตแล้วถูกสืบสานต่อมาจนถึงปัจจุบัน จึงกลายเป็นวัฒนธรรมการกินดื่มที่สามารถพบเห็นได้ทุกพื้นที่ทั่วโลก บางวัฒนธรรมก็เป็นเพียงการสืบสานเฉพาะภูมิภาค แต่บางวัฒนธรรมก็ถูกเผยแพร่ออกไปทั่วโลกจนเป็นที่รู้จักในทางสากล วัฒนธรรมการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็เป็นหนึ่งในวัฒนธรรมที่แพร่หลายอยู่ในตอนนี้ ซึ่งธุรกิจการผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เองก็ขับเคี่ยวกันพอตัว เพื่อที่จะส่งผลิตภัณฑ์ของตัวเองออกมาชิงพื้นที่ตลาด เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีชื่อคุ้นหูคุ้นตาอยู่บ้างก็คงจะเป็น ไวน์ เบียร์ หรือบรั่นดี แต่ชื่อเครื่องดื่มที่เอ่ยไปก็ไม่ใช่ทั้งหมดที่มีอยู่ทั่วโลก เพราะยังมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่รู้จักกันเฉพาะกลุ่มและไม่ได้รู้จักกันทั่วไปก็มี ในวันนี้จึงถือโอกาสยกเอาวัฒนธรรมการดื่ม วิสกี้ มาเล่าสู่กันฟัง เครื่องดื่มนี้ก็น่าจะเป็นชื่อที่คุ้นเคยอยู่แล้วแต่คงจะไม่ได้ทราบที่มาที่ไปกันมากนัก ซึ่งเรื่องเล่านี้แม้จะไม่ใช่นักดื่มตัวยงก็สามารถเรียนรู้วัฒนธรรมเหล่านี้ไปพร้อมกันได้ ในวันที่สก็อตวิสกี้ถือกำเนิดขึ้นมาในโลก ช่วงแรกเริ่มของ วิสกี้ ต้นกำเนิด จะอยู่ที่ไอร์แลนด์ ซึ่งชนชาติไอร์แลนด์เป็นผู้บุกเบิกให้มีเครื่องดื่มชนิดนี้ขึ้นมา แต่ชนชาติสก็อตแลนด์เป็นผู้ที่ทำให้เครื่องดื่มชนิดนี้เป็นที่รู้จักโดยทั่วไป ส่งผลให้เป็นที่รู้จักยาวนานมาจนถึงปัจจุบันในชื่อเรียกสก็อตวิสกี้ โดยอ้างอิงการตั้งชื่อตามแหล่งที่ผลิตนั่นเอง และสก็อตวิสกี้เองก็ถือเป็นแนวทางการผลิตเครื่องดื่มชนิดนี้ในภูมิภาคอื่น ๆ ของโลกในทุกวันนี้ด้วย แต่ถึงอย่างนั้นก็ถือว่าสก็อตวิสกี้เป็นชื่อที่ยังมีอิทธิพลต่อนักดื่มอยู่ตลอด หากจะพูดว่าเป็นชื่อที่มีความขลังและน่าดึงดูดก็ย่อมได้ ก่อนที่จะมีชื่อเรียกว่าสก็อตวิสกี้ ได้อ้างอิงชื่อเรียกตามภาษาสก็อตแลนด์โบราณว่า Uisge Bheatha เมื่อแปลออกมาจะได้ความหมายว่า Water of Life ซึ่งเปรียบเป็นน้ำแห่งชีวิต ที่ต้องบอกแบบนั้นเพราะแต่เดิมกลุ่มนักบวชนำเอาสุราที่ได้จากการหมักข้าวมอลต์มาใช้แทนน้ำสะอาดเพื่อผสมกับยาสมุนไพรรักษาโรค เพราะในช่วงเวลานั้นเกิดโรคระบาดและเชื้อโรคอาจจะปนเปื้อนมากับน้ำ อีกทั้งน้ำสะอาดเองก็เป็นของหายาก การนำสุรามาใช้แทนน้ำจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด และเวลาต่อมาสุราที่นำมาใช้ผสมยารักษาโรคเหล่านั้นจึงถูกขานชื่อว่าสก็อตวิสกี้อย่างที่เห็นในปัจจุบัน เมื่อชื่อสก็อตวิสกี้ถูกเผยแพร่ออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว ก็มีข้อกำหนดเกี่ยวกับสุราที่ผลิตออกมาว่าจะรับรองให้ใช้ชื่อสก็อตวิสกี้ได้หรือไม่นั้น ต้องพิจารณาเงื่อนไขให้ตรงตามข้อกำหนดของ […]
ย้อนส้นทาง โซจู สุดยอดความภูมิใจแห่งชาติเกาหลีใต้
เคยมีคำกล่าวทำนองว่าประเทศไทยเป็นชาติที่รับเอาอิทธิพลทางวัฒนธรรมชาติอื่นเข้ามาเป็นประจำ ซึ่งคำกล่าวนั้นก็ไม่ได้เกินจริงนัก ยิ่งในยุคปัจจุบันที่เทคโนโลยีการสื่อสารมีขอบเขตกว้างขึ้น เราสามารถเข้าถึงและซึมซับเรื่องราวอื่นที่อยู่ไกลออกไปคนละพื้นที่ได้ง่ายมาก เรื่องราวที่กำลังมีอิทธิพลต่อวิถีชีวิตคนไทยเราอยู่ในขณะนี้ก็คงไม่พ้นไปจากวัฒนธรรมเกาหลี ซึ่งเห็นได้จากอิทธิพลด้านความบันเทิงอย่างซีรีส์เกาหลี อิทธิพลด้านแฟชั่นที่มาจากศิลปินเกาหลี และที่ขาดไม่ได้ยกให้อิทธิพลด้านอาหารและเครื่องดื่ม โดยเฉพาะปิ้งย่างสไตล์เกาหลีที่ยกเครื่องเคียงมาเสิร์ฟแบบจัดเต็ม เมื่ออิทธิพลด้านอาหารและเครื่องดื่มแบบเกาหลีกำลังเป็นที่นิยมในไทย ธุรกิจเกี่ยวกับอาหารเกาหลีก็เปิดตัวตามกันมาเป็นระยะ มีให้เลือกทั้งแบบสั่งเป็นจานและแบบบุฟเฟต์ ไม่ว่าจะไปอยู่ตรงไหนของผังเมืองเชื่อว่าจะต้องมีร้านอาหารเกาหลีเปิดบริการอยู่อย่างน้อย 1 ร้านแน่นอน สิ่งที่ขาดจากการทานอาหารเกาหลีไม่ได้นอกจากเครื่องเคียงอาหารที่ละลานตาแล้ว ก็ต้องยกความดีงามให้กับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขวดเล็กน่ารักอย่าง โซจู เลย และเป็นเหล้าเกาหลีที่นักดื่มชาวไทยยกหัวใจให้อย่างเต็มที่เลย แต่ความนิยมนั้นเกิดจากอะไรคงต้องไปย้อนเรื่องราวกันเสียหน่อย เหล้าเกาหลีที่กำเนิดจากอิทธิพลตะวันออกกลาง ในอดีตของเกาหลีใต้เคยเป็นดินแดนที่รับบทผู้ถูกรุกรานมาก่อน ซึ่งในการรุกรานย่อมมีการสูญเสียและมีบางสิ่งถูกทิ้งเอาไว้เป็นอนุสรณ์ เมื่อครั้งที่เกาหลีใต้ทำสงครามกับจักรวรรดิมองโกลก็ได้หลงเหลือวิธีการทำเหล้าแบบอารัก (Arak) เอาไว้ โดยวิธีการทำเหล้าแบบอารักที่จักรวรรดิมองโกล้เหลือเอาไว้ในช่วงรุกรานนั้นเป็นแนวคิดที่ได้มาจากชาวตะวันออกกลาง จุดเริ่มต้นการเผยแพร่วิธีการหมักเหล้าสไตล์อารักในแผ่นดินเกาหลีใต้อยู่ที่เมืองอันดง จากจุดเริ่มต้นนั้นทำให้ชาวเกาหลีใต้ที่ได้รับแนวคิดมาได้พัฒนาสูตรเหล้าจนกลายมาเป็นสูตร โซ จู ดั้งเดิม เหล้าที่เป็นของเกาหลีเอง เหล้าเกาหลีที่ถูกพัฒนามาจากวิถีของตะวันกลางจะต่างกันที่วัตถุดิบในการหมักเหล้า สำหรับเหล้าเกาหลีที่ถูกพัฒนามานั้นใช้ข้าวจ้าว ข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ เป็นวัตถุดิบในการทำ เหล้าที่ได้ผลิตด้วยวัตถุดิบเหล่านี้จะมีลักษณะที่ใส มีความบริสุทธิ์ ไม่มีกลิ่นแปลกปลอม รสชาติค่อนข้างเบาบาง แต่ปริมาณแอลกอฮอล์นั้นสูงไม่ใช่เล่นเลย โดยมีปริมาณแอลกอฮอล์เฉลี่ยอยู่ที่ 25-45 ดีกรี แต่ก็เป็นที่ถูกปากสำหรับคนเกาหลีใต้มากเพราะดื่มง่าย แต่หลังจบสงครามความเป็นอยู่โดยรวมของประเทศเกาหลีมีความขาดแคลน วัตถุดิบประเภทข้าวจึงไม่เพียงพอต่อการผลิตเหล้าเกาหลีแบบเดิมได้ […]
คราฟเบียร์ เสน่ห์เครื่องดื่มของนักกระดกที่ไม่เหมือนใคร
สำหรับใครที่เป็นคอเบียร์ตัวจริงจะต้องเคยบุกไปชิมยังแหล่งที่มี คราฟเบียร์ ทุกที่อย่างแน่นอน เพราะด้วยกรรมวิถีและการรังสรรค์จากผู้ผลิตรายเล็กทำออกมาได้รสชาติที่ไม่เหมือนเบียร์ทั่วไป ซึ่งความแตกต่างที่ว่ากันว่ามันคือเสน่ห์น่าลิ้มลอง จึงได้เกิดเป็นวัฒนธรรมใหม่ ๆ ในการดื่ม วันนี้เราจะพาคุณไปทำความรู้จักเหมือนว่าได้ไปบุกถึงบาร์คราฟ เบียร์ด้วยตัวเอง ไปดูกันความน่าสนใจและความหมายคืออะไรกันแน่ ความหมายที่เข้าใจง่าย ๆ ของ คราฟเบียร์ คืออะไร รู้แล้วต้องอยากลอง Craft Beer คือเบียร์ที่ถูกผู้ผลิตรายเล็กเป็นผู้รังสรรค์ ซึ่งจะมีรสชาติที่แตกต่างและหลากหลายเพราะมีอิสระในการผลิต เมื่อเปรียบเทียบกับเบียร์ทั่วไปจะใช้วิธีดั้งเดิมและต้องบอกเลยว่าสำหรับคราฟเบียร์แล้ว ทุกขั้นตอนทำด้วยมือทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นตั้งแต่การหมักบ่ม บรรจุลงขวดและส่งจำหน่าย เรียกง่าย ๆ คือเป็นเบียร์โฮมเมดนั้นเอง จึงทำให้เบียร์ชนิดนี้มีเสน่ห์อย่างมากและเป็นที่ต้องการ ไม่ใช่ว่าเบียร์ทุกยี่ห้อที่ผลิตขึ้นเองจะเป็นคราฟเบียร์ทั้งหมด เพราะหากลองสังเกตในวัฒนธรรมอเมริกามีการต้มดื่มเองที่บ้านหรือหากมีโอกาสพิเศษจะนำออกมาดื่มฉลอง ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจะเรียกว่า Homebrew แต่สำหรับคราฟต์เบียร์คือจะต้องผลิตมาจากโรงเบียร์ขนาดเล็กที่มีปริมาณจำกัด สามารถนำไปวางจำหน่าย สำหรับ คราฟเบียร์ แนะนํา ต้องผลิตไม่เกินปริมาณ 7 ร้อยล้านลิตรต่อปีนั้นอง นอกจากนี้เพื่อให้คุณได้รู้จัก Craft Beer มากขึ้นเราจะพาคุณไปดูคุณสมบัติทั้ง 3 อย่าง โดยเป็นข้อมูลที่มีการกำหนดโดย Brewers Association) ่ง ะเป ดังนี้ สถานที่ผลิตอย่างโรงเบียร์จะต้องมีขนาดเล็กและต้องมีกำลังการผลิตไม่เกิน 6 ล้านบาร์เรล […]
เหล้าปั่น จุด START สำหรับนักดื่มมือใหม่และข้อควรระวังหากคิดจะดื่ม
ในค่ำคืนที่แสงสีสาดส่องละลานตาผนวกกับเสียงเพลงสร้างความครื้นเครงไปทั่วทั้งร้าน บนโต๊ะมี เหล้าปั่น สีสันสวยงาม บ้างบรรจุในแก้วน้ำ บ้างอยู่ในแก้วไวน์หรูหรา หรืออยู่ในเหยือกน้ำสีใสใบใหญ่เห็นส่วนประกอบที่มีอยู่ในเครื่องดื่มนั้น ไม่ว่าจะเป็นเยลลี่ ผลไม้ตกแต่งด้วยส้ม มะนาว และใบมิ้นท์ ใครใคร่ตักหรือสะดวกใช้หลอดดูดก็เชิญได้ตามสบาย ผู้คนนั่งล้อมวงกินดื่มอย่างสนุกสนาน สำหรับคนที่ไม่เคยเห็นหรือไม่รู้จักคงสงสัยว่าเจ้าน้ำสีฟ้าสีแดงและอีกหลาย ๆ สีที่ถูกปั่นมาจนเหลวละเอียดคือน้ำอะไร เหตุใดจึงพร้อมใจกันสั่งมาดื่มสังสรรค์บนโต๊ะอย่างต่อเนื่องไม่หยุดหย่อน ขอเฉลยกันตรงนี้เลยว่ามันคือ เหล้า ปั่น เครื่องดื่มที่ถูกเรียกอีกชื่อว่า frozen cocktail เป็นเครื่องดื่มที่มีการผสมน้ำหวานผลไม้น้ำแข็งรวมกับเหล้าและนำไปปั่นผสมกันให้ได้รสชาติที่มีความหวานเหมาะกับคนที่ไม่ค่อยดื่มแอลกอฮอล์เพราะ ไม่มีรสขมหรือกลิ่นเหล้าแรง ๆ นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาเทคนิคในการทำเหล้า ปั่นให้มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้นเช่นการเขย่าการเผา การจุดไฟเพื่อเพิ่มเอกลักษณ์และมูลค่าให้กับเมนูนั้น ๆ ยิ่งขึ้น จากเหล้ารัมไปสู่เหล้าปั่น อันดับแรกต้องขอเกริ่นถึงเหล้ารัมที่เกิดมาก่อนเหล้าปั่น ช่วงการล่าอาณานิคมของชาติตะวันตกโดยเป็นผลผลิตของชาวไร่อ้อยในหมู่เกาะทะเลแคริบเบียนที่ทำกากน้ำตาลเป็นจำนวนมากเกินไปจนไม่มีมูลค่า แต่ดันได้รับความนิยมในการบริโภคเป็นอย่างมาก เพราะมีราคาถูกและมีแอลกอฮอล์แรงทำให้แพร่ขยายไปได้ทั่วไป โดยเหล้ารัมสามารถนำมาผสมเป็นเครื่องดื่มที่เรียกว่าค็อกเทล ซึ่งเป็นต้นแบบของการทำเหล้า ปั่นนั่นเอง โดยค็อกเทลคือการนำเอาผลไม้น้ำตาลมาผสมกับน้ำแข็งและกรองเอาแต่น้ำไปทานจึงดื่มง่ายมากกว่าการทานเหล้ารัมแบบเพียวๆ โดยส่วนมากการเสิร์ฟ cocktail มักจะมีให้บริการในโรงแรมหรือร้านอาหารที่มีชื่อเสียงทำให้มีราคาค่อนข้างสูง เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าถึงได้มากขึ้น จึงเกิดการทำเหล้า ปั่นขึ้นมาโดยใช้ผลไม้และส่วนผสมต่าง ๆ มาปั่นรวมกับเหล้ารัม วอดก้า จิน เหล้าสี วิสกี้หรือเหล้าขาว ถัดจากนั้นจึงมีการพัฒนาสูตรและทำ เหล้า ปั่น […]