ซึมซับการดื่ม วิสกี้ ที่ไม่ใช่แค่ไหลแอลกอฮอล์เข้าสู่ร่างกาย
ในวิถีการดำรงชีพของมนุษย์เรามีเรื่องของอาหารการกินมาเกี่ยวพันตั้งแต่ยุคเก่าจนถึงยุคใหม่ อาหารหรือเครื่องดื่มที่กำเนิดขึ้นตั้งแต่อดีตแล้วถูกสืบสานต่อมาจนถึงปัจจุบัน จึงกลายเป็นวัฒนธรรมการกินดื่มที่สามารถพบเห็นได้ทุกพื้นที่ทั่วโลก บางวัฒนธรรมก็เป็นเพียงการสืบสานเฉพาะภูมิภาค แต่บางวัฒนธรรมก็ถูกเผยแพร่ออกไปทั่วโลกจนเป็นที่รู้จักในทางสากล วัฒนธรรมการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็เป็นหนึ่งในวัฒนธรรมที่แพร่หลายอยู่ในตอนนี้ ซึ่งธุรกิจการผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เองก็ขับเคี่ยวกันพอตัว เพื่อที่จะส่งผลิตภัณฑ์ของตัวเองออกมาชิงพื้นที่ตลาด เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีชื่อคุ้นหูคุ้นตาอยู่บ้างก็คงจะเป็น ไวน์ เบียร์ หรือบรั่นดี แต่ชื่อเครื่องดื่มที่เอ่ยไปก็ไม่ใช่ทั้งหมดที่มีอยู่ทั่วโลก เพราะยังมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่รู้จักกันเฉพาะกลุ่มและไม่ได้รู้จักกันทั่วไปก็มี ในวันนี้จึงถือโอกาสยกเอาวัฒนธรรมการดื่ม วิสกี้ มาเล่าสู่กันฟัง เครื่องดื่มนี้ก็น่าจะเป็นชื่อที่คุ้นเคยอยู่แล้วแต่คงจะไม่ได้ทราบที่มาที่ไปกันมากนัก ซึ่งเรื่องเล่านี้แม้จะไม่ใช่นักดื่มตัวยงก็สามารถเรียนรู้วัฒนธรรมเหล่านี้ไปพร้อมกันได้ ในวันที่สก็อตวิสกี้ถือกำเนิดขึ้นมาในโลก ช่วงแรกเริ่มของ วิสกี้ ต้นกำเนิด จะอยู่ที่ไอร์แลนด์ ซึ่งชนชาติไอร์แลนด์เป็นผู้บุกเบิกให้มีเครื่องดื่มชนิดนี้ขึ้นมา แต่ชนชาติสก็อตแลนด์เป็นผู้ที่ทำให้เครื่องดื่มชนิดนี้เป็นที่รู้จักโดยทั่วไป ส่งผลให้เป็นที่รู้จักยาวนานมาจนถึงปัจจุบันในชื่อเรียกสก็อตวิสกี้ โดยอ้างอิงการตั้งชื่อตามแหล่งที่ผลิตนั่นเอง และสก็อตวิสกี้เองก็ถือเป็นแนวทางการผลิตเครื่องดื่มชนิดนี้ในภูมิภาคอื่น ๆ ของโลกในทุกวันนี้ด้วย แต่ถึงอย่างนั้นก็ถือว่าสก็อตวิสกี้เป็นชื่อที่ยังมีอิทธิพลต่อนักดื่มอยู่ตลอด หากจะพูดว่าเป็นชื่อที่มีความขลังและน่าดึงดูดก็ย่อมได้ ก่อนที่จะมีชื่อเรียกว่าสก็อตวิสกี้ ได้อ้างอิงชื่อเรียกตามภาษาสก็อตแลนด์โบราณว่า Uisge Bheatha เมื่อแปลออกมาจะได้ความหมายว่า Water of Life ซึ่งเปรียบเป็นน้ำแห่งชีวิต ที่ต้องบอกแบบนั้นเพราะแต่เดิมกลุ่มนักบวชนำเอาสุราที่ได้จากการหมักข้าวมอลต์มาใช้แทนน้ำสะอาดเพื่อผสมกับยาสมุนไพรรักษาโรค เพราะในช่วงเวลานั้นเกิดโรคระบาดและเชื้อโรคอาจจะปนเปื้อนมากับน้ำ อีกทั้งน้ำสะอาดเองก็เป็นของหายาก การนำสุรามาใช้แทนน้ำจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด และเวลาต่อมาสุราที่นำมาใช้ผสมยารักษาโรคเหล่านั้นจึงถูกขานชื่อว่าสก็อตวิสกี้อย่างที่เห็นในปัจจุบัน เมื่อชื่อสก็อตวิสกี้ถูกเผยแพร่ออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว ก็มีข้อกำหนดเกี่ยวกับสุราที่ผลิตออกมาว่าจะรับรองให้ใช้ชื่อสก็อตวิสกี้ได้หรือไม่นั้น ต้องพิจารณาเงื่อนไขให้ตรงตามข้อกำหนดของ […]
เปิดประวัติ เบียร์โฮการ์เด้น เบียร์ยุโรปที่มีชื่อเสียงก้องโลก
วันนี้ชวนเหล่านักดื่มและคนที่สนใจประวัติเกี่ยวกับเรื่องเบียร์มาทำความรู้จักกับที่มาที่ไปของ เบียร์โฮการ์เด้น เบียร์พรีเมี่ยมที่มีสไตล์เป็นของตัวเองมาพร้อมกับรสชาติดื่มง่ายละมุนลิ้น จนเรียกได้ว่าเป็นเบียร์อีกยี่ห้องที่ได้รับความนิยมมาก แต่น้อยคนที่จะทราบว่าที่มาที่ไปของเบียร์ยี่ห้อนี้เป็นมาอย่างไร วันนี้เรามาเจาะลึกถึงเรื่องราวต้นกำเนิดของเบียร์โฮการ์เด้นกัน…ก่อนอื่นมาพูดถึงต้นกำเนิดกันสำหรับโฮการ์เด้นหรือเบียร์ที่มีขวดสีขาวตกแต่งด้วยโทนสีชมพูบริเวณคอขวด เป็นเบียร์ที่มีต้นกำเนิดมาจากหมู่บ้านแห่งหนึ่งคือ หมู่บ้านโฮการ์เด้น ในเบลเยียม ซึ่งเลื่องชื่อว่าเป็นเบียร์ขาวที่ได้รับความนิยมมากในหมู่บ้านนี้ ย้อนกลับไปเมื่อศตวรรษที่ 19 เบียร์โฮการ์เด้นเกิดขึ้นได้เพราะนักบวชคนหนึ่งได้คิดค้นสูตรทำเครื่องดื่มซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากพ่อค้าอรดาต่อมามีการปรับสูตรไปเรื่อย ๆ ซึ่งจุดเริ่มต้นของเบียร์ยี่ห้อนี้เริ่มจากนำ ยีส น้ำข้าว อ๊อพส์ เปลือกส้มและผักชีมาเป็นส่วนผสม อย่างไรก็ตามเบียร์ยี่ห้อนี้โด่งดังอีกครั้งในประเทศเบลเยียมเมื่อศตวรรษที่ 90 และโด่งดังมาจนถึงวันนี้ เบียร์โฮการ์เด้น กับวัฒนธรรมการดื่มชั้นสูงเมื่อ 400 กว่าปีก่อน ชวนคุณย้อนกลับไปไกลสักหน่อยใน 400-500 ปีก่อน การดื่มเบียร์ถือว่าเป็นวัฒนธรรมการดื่มของคนชั้นสูง จึงไม่แปลกที่ในสมัยนั้นยุคแรกคนที่คิดค้นเบียร์จึงเป็นนักบวช ทั้งนี้ยังเป็นอีกตัวช่วยหนึ่งที่ทำให้โบสถ์สามารถมีรายได้เพื่อนำมาพัฒนาศาสนาในช่วงยุคนั้นยุโรปอยู่ในยุคกลางที่เต็มไปด้วยสงคราม เมื่อพูดถึงเบียร์ยี่ห้อนี้ในปัจจุบันจึงทำให้หลายคนรู้สึกว่าเป็นเบียร์ที่แตกต่างจากยี่ห้อทั่วไปเพราะมีภาพลักษณ์ที่แตกต่างว่าง่าย ๆ คือดูดีมีราคา ปิแอร์ เซลิส ผู้บุกเบิกและปรับสูตรเบียร์โฮการ์เด้น จนโด่งดังไปทั่วโลก จากที่ช่วงหนึ่งเบียร์ยี่ห้อนี้ไม่ได้ถูกพูดถึงมากนะ เรียกว่าหลังจากช่วงสงครามยุโรปในยุคกลางก็กลับมาโด่งดังอีกครั้งใน 10 ปีให้หลัง โดยนายปิแอร์ เซลิส จากอดีตคนส่งนมที่เติบโตในหมู่บ้านโฮการ์เด้น เขาได้น้ำสูตรดั้งเดิมของเบียร์ โฮการ์เด้น มาทดลองใหม่จนลงตัวในรสชาติที่ยังคงมีเอกลักษณ์มาจากเมล็ดผักชีเปลือกส้ม อย่างไรก็ตามการกลับมาครั้งนี้ถือว่ามีคู่แข่งอยู่ไม่น้อยเพราะก็ยังมีเมียประเภทอื่น ๆ ที่ได้รับความนิยมในท้องตลาด แต่ด้วยจุดเด่นและจุดยืนของปิแอร์ ทำให้เบียร์ยี่ห้อนี้มีจุดเด่นที่แตกต่างจากเบียร์ท้องตลาดและไม่นานก็ได้เป็นเบียร์ที่นิยมของคนทั่วโลกด้วยรสชาติดั้งเดิมแบบเดียวกับที่นักบวชได้คิดค้นไว้ นั่นก็คือเป็นเบียร์ขาวที่มีส่วนผสมหลักคือ […]
ย้อนรอย เบียร์ช้าง อดีตจนถึงปัจจุบันกับการยืนหนึ่งในวงการเครื่องดื่ม !
ช้าง…กินแล้วภาคภูมิใจ เบียร์คนไทยทำเอง เชื่อว่ามีนักดื่มหลายคนที่ชื่นชอบ เบียร์ช้าง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มักจะพบในวงปาร์ตี้แฮงเอาท์หรือคนทำงานที่ต้องร่วมวงสังสรรค์กัน รวมถึงแม้แต่คนทั่วไปก็ยังคุ้นหูประโยคนี้เพราะถ้าย้อนกลับไปก่อนหน้านี้เพลงเบียร์ช้างก็ฮอตอยู่ไม่น้อย ซึ่งน้อยคนที่จะรู้ที่ไปที่มาของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยี่ห้อนี้หากไม่ใช่แฟนตัวยงโดยเฉพาะ วันนี้เพื่อให้ผู้สนใจได้รู้จักประวัติของเครื่องดื่มยี่ห้อนี้ เราชวนคุณมาย้อนวันวานว่าทำไมเบียร์ช้างเป็นที่นิยมมาจนถึงปัจจุบัน ไทยเบฟผู้ให้กำเนิด เบียร์ช้าง เบียร์คนไทย ในบรรดาผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่ม ต้องยอมรับว่า บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) หรือไทยเวฟโดย นายเจริญ สิริวัฒนภักดี ประธานกรรมการบริหาร คือผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มแนวหน้าของไทยที่มีวิสัยทัศน์องค์กรใส่ใจในทุกมิติไม่ว่าจะเป็นมุ่งมั่นเพื่อมอบผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพยอดเยี่ยม เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค เรียกว่ายืนหนึ่งมายาวนานจนถึงเวลานี้เลยก็ว่าได้ เพราะไม่เพียงเป็นเบียร์ที่ถูกปากของนักดื่มในประเทศเท่านั้น แต่เมื่อส่งเข้าประกวดเกี่ยวกับเครื่องดื่มในเวทีโลกก็ไม่น้อยหน้าใคร เบียร์ช้าง เครื่องดื่มรสชาติคนไทย ขวดแรกผลิตเสร็จสมบูรณ์ในวันที่ 4 เมษายน พ.ศ.2537 เมื่อย้อนกลับไปในอดีตเมื่อก่อนที่เบียร์ช้างเพิ่งเป็นที่รู้จัก เริ่มมีโฆษณาโด่งดัง เครื่องดื่มยี่ห้อนี้เกิดจากความต้องการขยายตลาด ทำให้เกิดเป็นเบียร์ที่ผลิตด้วยความตั้งใจมุ่งหวังให้เป็นเบียร์รสชาติคนไทยที่จะมีชื่อเสียงทั้งในไทยและต่างประเทศได้ ซึ่งขวดแรกผลิตเสร็จสมบูรณ์จากโรงงานผลิตเบียร์ อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2537 เบียร์ช้างเบียร์เหรียญทองระดับโลก 3 ปีซ้อน ในเการแข่งขันบนเวทีโลก เครื่องดื่มยี่ห้อนี้ไม่ได้น้อยหน้า เพราะขึ้นแท่นเป็นเบียร์ที่ได้รับรางวัลเหรียญทองระดับโลกจากสถาบัน Monde Selection ซึ่งเป็นสถาบันนานาชาติที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อการคัดเลือกที่มีคุณภาพพัฒนาและก่อตั้งมานานกว่า 50 ปี มีความเชี่ยวชาญในการทดสอบ […]
ย้อนมองความสำเร็จของ เบียร์สิงห์ เครื่องดื่มดังระดับโลก
เชื่อว่าเมื่อพูดถึง เบียร์สิงห์ ไม่มีใครไม่รู้จักเพราะถือว่าเป็นยี่ห้อเบียร์ชั้นนำที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง สำหรับเบียร์ยี่ห้อนี้ผลิตโดย บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ซึ่งก่อตั้งโดยพระยาภิรมย์ภักดี แต่หากถามถึงที่ไปที่มาว่าเบียร์ยี่ห้อนี้ได้รับแรงบันดาลใจหรือเกิดขึ้นได้อย่างไรหลายคนอาจยังไม่รู้ เพื่อให้คุณได้รู้ลึกเกี่ยวกับประวัติเบียร์ยี่ห้อนี้มากยิ่งขึ้นวันนี้เราชวนมาทำความรู้จักที่มาที่ไปของเบียร์สิงห์เบียร์ของคนไทย ปีพ.ศ 2473 จุดเริ่มต้นเบียร์สิงห์ เครื่องดื่มยอดฮิตของคนหลายกลุ่ม เกิดขึ้นจากการที่พระยาภิรมย์ภักดีหรือ บุญรอด เศรษฐบุตร ได้ลองดื่มเบียร์เยอรมันและคิดว่าหากนำมาขายในเมืองไทยจะได้รับความนิยมหลังจากนั้นจึงได้ยื่นหนังสือขออนุญาตตั้งโรงงานกลั่นเบียร์ และจุดนี้เองเป็นจุดเริ่มต้นของการผลิตเบียร์ยี่ห้อดังกล่าว และต่อมาในปี 2477 เบียร์สิงห์เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้นในงานสโมสรคณะราษฎร เพราะหลังจากจากการที่พระยาภิรมย์ภักดีได้นำเบียร์สดใสถังเปิดให้ผู้คนดื่มฟรี ก็ทำให้ผู้คนในงานประทับใจเป็นอย่างมาก ต่อมาทำให้เบียร์สิงห์เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้นจนถึงทุกวันนี้ ยุคเปลี่ยนผ่าน เบียร์ สิงห์ จึงตกมาอยู่ในความรับผิดชอบของทายาทรุ่น 3 ในตระกูลภิรมย์ภักดี หลายคนรู้จักเบียร์สิงห์ผ่านคนดังในสังคมที่มีชื่อเสียง เช่น สันติ ภิรมย์ภักดี หรือ ต๊อด เบียร์ สิงห์ ซึ่งหลังจากที่สืบสานวิสัยทัศน์ของผู้ก่อตั้งเวลาต่อมาก็เกิดมีข่าวดังในปีพ.ศ 2538 ช่วงเดือนเมษายน เกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ที่โรงงานเบียร์ปทุมธานีเรียกว่าทำให้เกิดความเสียหายอย่างหนักกว่าร้อยละ 80 ของสินค้าในเครือทั้งหมดใน จุดนี้เองแทบจะถือว่าต้องเริ่มต้นใหม่อีกครั้งหนึ่งและนิยามชัดว่าทายาทรุ่น 3 ได้พิสูจน์ตัวเองผ่านวิกฤตดังกล่าวมาได้จากการร่วมแรงร่วมใจของพนักงาน ทั้งยังมีหัวเรือใหญ่อย่างสันติภิรมย์ภักดีในการสร้างความเชื่อมั่นว่าทุกคนจะต้องผ่านไปได้ ต่อมาซ้ำร้ายในปี 2540 วิกฤตต้มยำกุ้งยังซ้ำเติมทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงเกิดหนี้ต่างประเทศและมีผลกระทบต่อบริษัทเบียร์สิงห์ อย่างไรก็ตาม สันติ ภิรมย์ภักดีไม่ยอมแพ้ต่อธุรกิจดังกล่าว […]
ย้อนส้นทาง โซจู สุดยอดความภูมิใจแห่งชาติเกาหลีใต้
เคยมีคำกล่าวทำนองว่าประเทศไทยเป็นชาติที่รับเอาอิทธิพลทางวัฒนธรรมชาติอื่นเข้ามาเป็นประจำ ซึ่งคำกล่าวนั้นก็ไม่ได้เกินจริงนัก ยิ่งในยุคปัจจุบันที่เทคโนโลยีการสื่อสารมีขอบเขตกว้างขึ้น เราสามารถเข้าถึงและซึมซับเรื่องราวอื่นที่อยู่ไกลออกไปคนละพื้นที่ได้ง่ายมาก เรื่องราวที่กำลังมีอิทธิพลต่อวิถีชีวิตคนไทยเราอยู่ในขณะนี้ก็คงไม่พ้นไปจากวัฒนธรรมเกาหลี ซึ่งเห็นได้จากอิทธิพลด้านความบันเทิงอย่างซีรีส์เกาหลี อิทธิพลด้านแฟชั่นที่มาจากศิลปินเกาหลี และที่ขาดไม่ได้ยกให้อิทธิพลด้านอาหารและเครื่องดื่ม โดยเฉพาะปิ้งย่างสไตล์เกาหลีที่ยกเครื่องเคียงมาเสิร์ฟแบบจัดเต็ม เมื่ออิทธิพลด้านอาหารและเครื่องดื่มแบบเกาหลีกำลังเป็นที่นิยมในไทย ธุรกิจเกี่ยวกับอาหารเกาหลีก็เปิดตัวตามกันมาเป็นระยะ มีให้เลือกทั้งแบบสั่งเป็นจานและแบบบุฟเฟต์ ไม่ว่าจะไปอยู่ตรงไหนของผังเมืองเชื่อว่าจะต้องมีร้านอาหารเกาหลีเปิดบริการอยู่อย่างน้อย 1 ร้านแน่นอน สิ่งที่ขาดจากการทานอาหารเกาหลีไม่ได้นอกจากเครื่องเคียงอาหารที่ละลานตาแล้ว ก็ต้องยกความดีงามให้กับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขวดเล็กน่ารักอย่าง โซจู เลย และเป็นเหล้าเกาหลีที่นักดื่มชาวไทยยกหัวใจให้อย่างเต็มที่เลย แต่ความนิยมนั้นเกิดจากอะไรคงต้องไปย้อนเรื่องราวกันเสียหน่อย เหล้าเกาหลีที่กำเนิดจากอิทธิพลตะวันออกกลาง ในอดีตของเกาหลีใต้เคยเป็นดินแดนที่รับบทผู้ถูกรุกรานมาก่อน ซึ่งในการรุกรานย่อมมีการสูญเสียและมีบางสิ่งถูกทิ้งเอาไว้เป็นอนุสรณ์ เมื่อครั้งที่เกาหลีใต้ทำสงครามกับจักรวรรดิมองโกลก็ได้หลงเหลือวิธีการทำเหล้าแบบอารัก (Arak) เอาไว้ โดยวิธีการทำเหล้าแบบอารักที่จักรวรรดิมองโกล้เหลือเอาไว้ในช่วงรุกรานนั้นเป็นแนวคิดที่ได้มาจากชาวตะวันออกกลาง จุดเริ่มต้นการเผยแพร่วิธีการหมักเหล้าสไตล์อารักในแผ่นดินเกาหลีใต้อยู่ที่เมืองอันดง จากจุดเริ่มต้นนั้นทำให้ชาวเกาหลีใต้ที่ได้รับแนวคิดมาได้พัฒนาสูตรเหล้าจนกลายมาเป็นสูตร โซ จู ดั้งเดิม เหล้าที่เป็นของเกาหลีเอง เหล้าเกาหลีที่ถูกพัฒนามาจากวิถีของตะวันกลางจะต่างกันที่วัตถุดิบในการหมักเหล้า สำหรับเหล้าเกาหลีที่ถูกพัฒนามานั้นใช้ข้าวจ้าว ข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ เป็นวัตถุดิบในการทำ เหล้าที่ได้ผลิตด้วยวัตถุดิบเหล่านี้จะมีลักษณะที่ใส มีความบริสุทธิ์ ไม่มีกลิ่นแปลกปลอม รสชาติค่อนข้างเบาบาง แต่ปริมาณแอลกอฮอล์นั้นสูงไม่ใช่เล่นเลย โดยมีปริมาณแอลกอฮอล์เฉลี่ยอยู่ที่ 25-45 ดีกรี แต่ก็เป็นที่ถูกปากสำหรับคนเกาหลีใต้มากเพราะดื่มง่าย แต่หลังจบสงครามความเป็นอยู่โดยรวมของประเทศเกาหลีมีความขาดแคลน วัตถุดิบประเภทข้าวจึงไม่เพียงพอต่อการผลิตเหล้าเกาหลีแบบเดิมได้ […]
จิบ เบียร์ลีโอ พร้อมกับทำความรู้จักเครื่องดื่มแบรนด์โปรด เพิ่มอรรถรสในการดื่ม !
ท่ามกลางการสังสรรค์ของกลุ่มเพื่อน เมื่อเสียงโหร้อง “เชียส์!” ดังพร้อมกับเสียงกระทบแก้วทำให้คุณย้อนไปยังความหลังของต้นกำเนิดว่าเครื่องดื่มอย่าง เบียร์ลีโอ นั้นมีที่มาที่ไปอย่างไร เชื่อว่าเมื่อคุณทราบประวัติจะทำให้การดื่มด่ำในครั้งนี้พิเศษขึ้น เพราะอะไรก็ตามเมื่อคุณได้ทำความรู้จักแบบลึกซึ้งคุณจะไตร่ตรองเมื่อลิ้นได้สัมผัสอย่างละเมียดละไมในทุก ๆ อึกที่คุณกระดกเข้าปาก ฉะนั้นเพื่อเป็นการเพิ่มอรรถรสในปาร์ตี้ของคุณวันนี้เราไปย้อนรอยว่าเครื่องดื่มแบรนด์โปรดของคุณนั้นเป็นมาอย่างไร ย้อนอดีตเครื่องดื่มชั้นสูง เบียร์ลีโอ รสชาติดีถูกปากคนไทยมายาวนาน กว่า 85 ปีที่ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จํากัด ดำเนินธุรกิจด้านเครื่องดื่มไร้แอลกอฮอลล์รายใหญ่ของประเทศไทย รวมไปถึงผู้ผลิตลีโอเบียร์ก่อตั้งโดย พระยาภิรมย์ภักดี (บุญรอด เศรษฐบุตร) ในปี พ.ศ. 2476 แต่ตัวเบียร์ ลีโอนั้นถือกำเนิดขึ้นในยุคทศวรรษ 90 ในปี 1998 หรือใน พ.ศ. 2541 ซึ่งในช่วงนั้นเองกระแสวัฒนธรรมป๊อบกําลังได้รับความนิยมอย่างมาก ถัดมาก็เป็นสังคมอินเตอร์เนทในประเทศไทย ซึ่งทำให้กิจกรรมการดื่มเบียร์ร่วมกับกลุ่มเพื่อนเป็นความหรูหรา แน่นอนมักนิยมดื่มกันในหมู่คนที่มีฐานะจึงถูกยกให้เป็นเครื่องดื่มชั้นสูง แน่นอนว่าทุกครั้งที่ได้จิบรสชาติอันละเมียดละไมจะทำให้คุณรู้สึกฟินทุกครั้งที่ได้ดื่ม มันสดชื่นความเหนื่อยล้าหายไปแบบปลิดทิ้ง สวนกระแส วิกฤติเศรษฐกิจต้มยำกุ้ง งัดกลยุทธ์บุกตลาดใหม่ คุณรู้ไม่ว่า เบียร์ลีโอ ได้ตัดสินใจเปิดตัวบุกตลาดใหม่ในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจต้มยำกุ้ง เข้าหากลุ่มผู้บริโภคในระดับกลาง เพราะการสังสรรค์เกิดขึ้นกับคนทุกกลุ่ม เบียร์จะเป็นตัวที่ทำให้พวกเขาเพลิดเพลินไปกับรสชาติมากกว่าการดื่มเพื่อให้เมา จึงทำให้มีการปรับราคาให้ทุกคนสามารถจับต้องได้ ต่อมาจึงทำให้ภาพลักษณ์แตกต่างไปจากเบียร์อื่น ๆ ในตลาด […]
คราฟเบียร์ เสน่ห์เครื่องดื่มของนักกระดกที่ไม่เหมือนใคร
สำหรับใครที่เป็นคอเบียร์ตัวจริงจะต้องเคยบุกไปชิมยังแหล่งที่มี คราฟเบียร์ ทุกที่อย่างแน่นอน เพราะด้วยกรรมวิถีและการรังสรรค์จากผู้ผลิตรายเล็กทำออกมาได้รสชาติที่ไม่เหมือนเบียร์ทั่วไป ซึ่งความแตกต่างที่ว่ากันว่ามันคือเสน่ห์น่าลิ้มลอง จึงได้เกิดเป็นวัฒนธรรมใหม่ ๆ ในการดื่ม วันนี้เราจะพาคุณไปทำความรู้จักเหมือนว่าได้ไปบุกถึงบาร์คราฟ เบียร์ด้วยตัวเอง ไปดูกันความน่าสนใจและความหมายคืออะไรกันแน่ ความหมายที่เข้าใจง่าย ๆ ของ คราฟเบียร์ คืออะไร รู้แล้วต้องอยากลอง Craft Beer คือเบียร์ที่ถูกผู้ผลิตรายเล็กเป็นผู้รังสรรค์ ซึ่งจะมีรสชาติที่แตกต่างและหลากหลายเพราะมีอิสระในการผลิต เมื่อเปรียบเทียบกับเบียร์ทั่วไปจะใช้วิธีดั้งเดิมและต้องบอกเลยว่าสำหรับคราฟเบียร์แล้ว ทุกขั้นตอนทำด้วยมือทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นตั้งแต่การหมักบ่ม บรรจุลงขวดและส่งจำหน่าย เรียกง่าย ๆ คือเป็นเบียร์โฮมเมดนั้นเอง จึงทำให้เบียร์ชนิดนี้มีเสน่ห์อย่างมากและเป็นที่ต้องการ ไม่ใช่ว่าเบียร์ทุกยี่ห้อที่ผลิตขึ้นเองจะเป็นคราฟเบียร์ทั้งหมด เพราะหากลองสังเกตในวัฒนธรรมอเมริกามีการต้มดื่มเองที่บ้านหรือหากมีโอกาสพิเศษจะนำออกมาดื่มฉลอง ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจะเรียกว่า Homebrew แต่สำหรับคราฟต์เบียร์คือจะต้องผลิตมาจากโรงเบียร์ขนาดเล็กที่มีปริมาณจำกัด สามารถนำไปวางจำหน่าย สำหรับ คราฟเบียร์ แนะนํา ต้องผลิตไม่เกินปริมาณ 7 ร้อยล้านลิตรต่อปีนั้นอง นอกจากนี้เพื่อให้คุณได้รู้จัก Craft Beer มากขึ้นเราจะพาคุณไปดูคุณสมบัติทั้ง 3 อย่าง โดยเป็นข้อมูลที่มีการกำหนดโดย Brewers Association) ่ง ะเป ดังนี้ สถานที่ผลิตอย่างโรงเบียร์จะต้องมีขนาดเล็กและต้องมีกำลังการผลิตไม่เกิน 6 ล้านบาร์เรล […]
เหล้าปั่น จุด START สำหรับนักดื่มมือใหม่และข้อควรระวังหากคิดจะดื่ม
ในค่ำคืนที่แสงสีสาดส่องละลานตาผนวกกับเสียงเพลงสร้างความครื้นเครงไปทั่วทั้งร้าน บนโต๊ะมี เหล้าปั่น สีสันสวยงาม บ้างบรรจุในแก้วน้ำ บ้างอยู่ในแก้วไวน์หรูหรา หรืออยู่ในเหยือกน้ำสีใสใบใหญ่เห็นส่วนประกอบที่มีอยู่ในเครื่องดื่มนั้น ไม่ว่าจะเป็นเยลลี่ ผลไม้ตกแต่งด้วยส้ม มะนาว และใบมิ้นท์ ใครใคร่ตักหรือสะดวกใช้หลอดดูดก็เชิญได้ตามสบาย ผู้คนนั่งล้อมวงกินดื่มอย่างสนุกสนาน สำหรับคนที่ไม่เคยเห็นหรือไม่รู้จักคงสงสัยว่าเจ้าน้ำสีฟ้าสีแดงและอีกหลาย ๆ สีที่ถูกปั่นมาจนเหลวละเอียดคือน้ำอะไร เหตุใดจึงพร้อมใจกันสั่งมาดื่มสังสรรค์บนโต๊ะอย่างต่อเนื่องไม่หยุดหย่อน ขอเฉลยกันตรงนี้เลยว่ามันคือ เหล้า ปั่น เครื่องดื่มที่ถูกเรียกอีกชื่อว่า frozen cocktail เป็นเครื่องดื่มที่มีการผสมน้ำหวานผลไม้น้ำแข็งรวมกับเหล้าและนำไปปั่นผสมกันให้ได้รสชาติที่มีความหวานเหมาะกับคนที่ไม่ค่อยดื่มแอลกอฮอล์เพราะ ไม่มีรสขมหรือกลิ่นเหล้าแรง ๆ นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาเทคนิคในการทำเหล้า ปั่นให้มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้นเช่นการเขย่าการเผา การจุดไฟเพื่อเพิ่มเอกลักษณ์และมูลค่าให้กับเมนูนั้น ๆ ยิ่งขึ้น จากเหล้ารัมไปสู่เหล้าปั่น อันดับแรกต้องขอเกริ่นถึงเหล้ารัมที่เกิดมาก่อนเหล้าปั่น ช่วงการล่าอาณานิคมของชาติตะวันตกโดยเป็นผลผลิตของชาวไร่อ้อยในหมู่เกาะทะเลแคริบเบียนที่ทำกากน้ำตาลเป็นจำนวนมากเกินไปจนไม่มีมูลค่า แต่ดันได้รับความนิยมในการบริโภคเป็นอย่างมาก เพราะมีราคาถูกและมีแอลกอฮอล์แรงทำให้แพร่ขยายไปได้ทั่วไป โดยเหล้ารัมสามารถนำมาผสมเป็นเครื่องดื่มที่เรียกว่าค็อกเทล ซึ่งเป็นต้นแบบของการทำเหล้า ปั่นนั่นเอง โดยค็อกเทลคือการนำเอาผลไม้น้ำตาลมาผสมกับน้ำแข็งและกรองเอาแต่น้ำไปทานจึงดื่มง่ายมากกว่าการทานเหล้ารัมแบบเพียวๆ โดยส่วนมากการเสิร์ฟ cocktail มักจะมีให้บริการในโรงแรมหรือร้านอาหารที่มีชื่อเสียงทำให้มีราคาค่อนข้างสูง เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าถึงได้มากขึ้น จึงเกิดการทำเหล้า ปั่นขึ้นมาโดยใช้ผลไม้และส่วนผสมต่าง ๆ มาปั่นรวมกับเหล้ารัม วอดก้า จิน เหล้าสี วิสกี้หรือเหล้าขาว ถัดจากนั้นจึงมีการพัฒนาสูตรและทำ เหล้า ปั่น […]